Last updated: 13 ธ.ค. 2567 | 40 จำนวนผู้เข้าชม |
แฮร์คัท เทคนิคเคลียร์หนี้แบบล้างกระดานที่ใช้ได้จริง
Hair Cut (แฮร์คัท) คือ กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้โดยลูกหนี้เจรจาขอส่วนลดจากเจ้าหนี้แล้วจ่ายหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชีทันที พูดง่าย ๆ คือ ตกลงกับเจ้าหนี้ว่าจะลดหนี้ที่ติดค้างกัน ปิดบัญชีแล้วจบกันเลย ไม่ต้อง ยึดและไม่ต้องฟ้อง หรือถ้าโดนฟ้องแล้ว ไม่ต้องตามอายัดทรัพย์สืบทรัพย์ หรือ ก็ไม่ต้องขายหนี้ ออกให้กับ บริษัท บริหารสินทรัพย์
"แฮร์คัท" คืออะไร?
Hair Cut (แฮร์คัท) คือ กระบวนการปรับโครงสร้างหนี้โดยลูกหนี้เจรจาขอส่วนลดจากเจ้าหนี้แล้วจ่ายหนี้ทั้งหมดเพื่อปิดบัญชีทันที พูดง่าย ๆ คือ ตกลงกับเจ้าหนี้ว่าจะลดหนี้ที่ติดค้างกันให้เหลือที่ต้องจ่ายคืนเท่าไหร่ โดยถ้าต้องการเคลียร์หนี้จบทันที ก็ทำการตกลงกับเจ้าหนี้ว่าจะขอลดหนี้ที่ติดค้าง จากนั้นก็ขอจ่ายหนี้ก้อนนั้นเพียงครั้งเดียว เช่น มียอดหนี้ 100,000 บาท ขอลดเหลือ 80,000 บาทแล้วจ่ายเพื่อปิดบัญชีทันที แต่หากไม่มีเงินเพียงพอในการเคลียร์หนี้ให้จบในครั้งเดียว ก็สามารถเจรจาขอลดหนี้ด้วยการจ่ายหนี้เป็นงวด ๆ ภายในเวลาที่กำหนด ขึ้นอยู่กับนโยบายช่วยเหลือของแต่ละธนาคาร ซึ่งส่วนใหญ่จะพิจารณาตามสภาพคล่องของลูกหนี้
Hair cut มีประโยชน์ยังไง
ไม่อยากจ่ายหนี้เต็มจำนวน ชวนกันมา Hair Cut หนี้ดีมั้ย?
หลายคนอาจเคยได้ยินว่า การทำ Hair Cut หนี้ คือวิธีที่ธนาคารอยากได้เงินคืนเร็วขึ้น ไม่ต้องคอยติดตามทวงถามจนเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ธนาคารยอมลดหนี้บางส่วนดีกว่าเสียทั้งหมด ยังไงธนาคารก็ต้องยอม แต่ความจริงแล้วผลกระทบที่เกิดจากการทำ Hair Cut หนี้มีมากกว่าที่เคยได้ยินมาแน่นอน มาทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจทำแฮร์คัทหนี้กัน
ในมุมของลูกหนี้
ข้อดีข้อเสีย การ Hair Cut
การทำ Hair cut มีข้อดีหลัก ๆ ดังนี้
ช่วยลดภาระหนี้เร็วขึ้น แม้จะมีเงินไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้เต็มจำนวน
ไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยในระยะยาว
ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อไม่มีหนี้คงค้าง
ข้อเสียของการทำ Hair Cut หนี้ คือ
เสียประวัติการเป็นลูกค้าที่ดี การทำ Hair Cut ทำให้ธนาคารจะพิจารณาทำให้กับลูกค้าที่ประสบปัญหาทางด้านการเงินจริง ๆ ไม่สามารถชำระหนี้ตามปกติได้จนกระทบต่อประวัติการใช้สินเชื่อ ซึ่งธนาคารก็จะมีมาตราการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอยู่แล้ว
เสียโอกาสในการขอสินเชื่อ เนื่องจากประวัติการค้างชำระหนี้ในอดีต ทำให้ขอสินเชื่อใหม่ได้ยากขึ้น
ภาระหนี้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากการค้างชำระ ตามระยะเวลาที่ค้าง
เสียค่าใช้จ่ายทางกฎหมาย ในกรณีที่ถูกสถาบันการเงินฟ้องคดี
กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันและครอบครัว เนื่องจากกังวลกับภาระหนี้คงค้าง
ในมุมของธนาคาร
ประโยชน์ที่ธนาคารได้จากการทำ Hair Cut คือ
การทำ hair cut หนี้ คือกระบวนการที่มีประโยชน์ต่อธนาคารอย่างมาก สามารถช่วยเหลือให้ลูกค้าผ่านวิกฤตหนี้ไปได้ ปลดภาระหนี้ได้เร็วขึ้น ไม่ลุกลามกลายเป็นวิกฤตหนี้เสีย จนธนาคารต้องเข้มงวดกับการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกหนี้ที่มีคุณภาพที่อาจได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่เกิดขึ้น ทำให้เศรษฐศาสตร์การเงินของประเทศยังคงหมุนเวียนไปได้เป็นปกติ
การทำแฮร์คัทเป็นประเด็นที่มักถูกมองข้าม คล้ายภูเขาน้ำแข็งที่จมตัวอยู่ใต้น้ำ คนทั่วไปมองไม่เห็น และไม่ค่อยมีคนพูดถึง ภาพที่ทุกคนมองเห็นคือธนาคารก็ยังได้เงินคืนแม้จะไม่เต็มจำนวน ดีกว่าไม่ได้เลยจริง ๆ แล้วระหว่างเก็บหนี้ได้บางส่วนกับเก็บหนี้ไม่ได้เลย ที่สุดของปลายทางคือวิกฤตทางการเงินเหมือนกัน การทำ hair cut จึงช่วยให้ธนาคารวางแผนรับมือหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้ ไม่ได้เกิดฉับพลันเหมือนกรณีที่สอง แค่นั้น!
หากธนาคารไม่ต้องสำรองหนี้เสีย เพราะลูกหนี้มีวินัยทางการเงิน ธนาคารหรือสถาบันการเงินก็สามารถผ่อนคลายมาตรการการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงสามารถขยายการบริการไปยังกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินของธนาคารได้ เศรษฐกิจของประเทศก็สามารถพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน
ข้อเสียของ Hair Cut หนี้ในมุมมองธนาคาร
ธนาคารมีส่วนสูญเสีย ได้รับหนี้ไม่เต็มจำนวน (ต้นไม่ครบ ดอกเบี้ยไม่ครบ)
ธนาคารอาจต้องระมัดระวังในการให้สินเชื่อกับลูกค้ารายใหม่ (ในกรณีที่มีหนี้เสียจำนวนมาก และลูกค้าเจตนาค้างชำระเพื่อใช้สิทธิ์ในการขอ Hair Cut)
สรุป
ประโยคที่หลายคนเคยพูดว่า “ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย” เดี๋ยวธนาคารก็ให้ส่วนลดเอง! เหล่านี้ยังเป็นประโยคที่ถูกต้องหรือไม่ จากที่เล่ามาทั้งหมดข้างต้น หวังว่าจะช่วยสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการทำ Hair Cut ได้ชัดเจนขึ้นนะ
ขอบคุณข้อมูล KRUNSRI
link: ข้อมูลรับปิดบัญชีตัดหนี้ hair cut รถยนต์
6 ธ.ค. 2567