มีหมายศาล นัด ไกล่เกลี่ย เรื่อง รถ แก้ไขอย่างไร?

Last updated: 24 ส.ค. 2567  |  99 จำนวนผู้เข้าชม  | 

หมายศาล นัด ไกล่เกลี่ย เรื่อง รถ

มีหมายศาล นัด ไกล่เกลี่ย เรื่อง รถ แก้ไขอย่างไร?
อย่าตกใจ เป็นนัดแรก นัดไตร่สวนมูลฟ้อง หรือนัด ไกล่เกี่ย ยังมีทางออก ปรึกษาเรา
โดนฟ้องศาลให้คืนรถชำระหนี้ทำยังไงดี?
โดนฟ้องให้คืนรถ ยึดรถเพื่อชำระหนี้: ทำความเข้าใจและรับมือ
เหตุใดจึงเกิดปัญหาการถูกฟ้องให้คืนรถ
ปัญหาการถูกฟ้องร้องให้คืนรถมักเกิดขึ้นจากเหตุผลหลักคือ การผิดนัดชำระหนี้ ตามสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ เมื่อผู้เช่าซื้อไม่สามารถชำระค่างวดตามกำหนด ธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์ซึ่งเป็นเจ้าของเงินต้นจะมีสิทธิ์เข้ามาดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อเรียกทรัพย์สินที่ใช้เป็นหลักประกันคืน ซึ่งในที่นี้คือ รถยนต์ที่คุณเช่าซื้อไปนั่นเอง
ขั้นตอนเมื่อถูกฟ้องร้อง
ได้รับหมายศาล: เมื่อได้รับหมายศาล ให้ศึกษาเนื้อหาอย่างละเอียดว่าถูกฟ้องในข้อหาใดบ้าง และมีระยะเวลาในการยื่นคำให้การเท่าใด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เช่น ทนายความ เพื่อขอคำแนะนำและวางแผนการต่อสู้คดี
เตรียมเอกสารหลักฐาน: รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ใบเสร็จรับเงิน เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี
ยื่นคำให้การ: ภายในระยะเวลาที่กำหนดในหมายศาล ต้องยื่นคำให้การต่อศาล เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี: ศาลจะนัดให้ทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย หรือพิจารณาพยานหลักฐาน เพื่อตัดสินคดี
แนวทางการแก้ไขปัญหา
เจรจากับธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์: พยายามเจรจากับธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์เพื่อขอผ่อนผันการชำระหนี้ หรือปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
ชำระหนี้ให้ครบ: หากมีกำลังทรัพย์เพียงพอ ควรชำระหนี้ให้ครบตามจำนวนที่ค้างชำระ เพื่อยุติคดี
ขายรถเอง: หากไม่สามารถชำระหนี้ได้ อาจพยายามขายรถเองเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ แต่ต้องแจ้งให้ธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์ทราบก่อน
ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง: หากรู้สึกว่าถูกเอาเปรียบหรือได้รับความไม่เป็นธรรม สามารถปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สภาทนายความ หรือสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค
สิ่งที่ควรระวัง
อย่าเพิกเฉย: การเพิกเฉยหมายศาลอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการต่อสู้คดี
อย่าหลบหนี: การหลบหนีจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง
ระวังการถูกหลอก: มีมิจฉาชีพที่อาศัยช่วงเวลาที่คุณกำลังเดือดร้อนเข้ามาหลอกลวง
ป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหา
ชำระหนี้ตรงตามกำหนด: การชำระหนี้ตรงตามกำหนดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันปัญหา
อ่านสัญญาให้ละเอียด: ก่อนเซ็นสัญญาเช่าซื้อ ควรอ่านสัญญาให้ละเอียด เพื่อทำความเข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง
ทำประกันภัยรถยนต์: การทำประกันภัยรถยนต์จะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เช่น ทนายความ จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์และวางแผนการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง
เตรียมเอกสารให้พร้อม: การมีเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณมีอำนาจในการต่อสู้คดีมากขึ้น
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถนำไปใช้เป็นคำแนะนำทางกฎหมายได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับกรณีของคุณ
คำสำคัญ: ถูกฟ้อง, ยึดรถ, ชำระหนี้, หมายศาล, กฎหมาย, ทนายความ, ไฟแนนซ์, สัญญาเช่าซื้อ
หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้เลยนะคะ
ตัวอย่างคำถามที่คุณอาจสนใจ:
ถ้าผมถูกยึดรถไปแล้ว ผมจะทำอย่างไรเพื่อไถ่รถคืนได้บ้าง?
ถ้าผมไม่สามารถชำระหนี้รถได้เลย จะมีทางออกอื่นนอกจากการให้ยึดรถไหมครับ?
ถ้าผมต้องการปรึกษาเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการถูกฟ้องร้องเรื่องรถยนต์ จะติดต่อใครได้บ้าง?
แนวทางรับมือเมื่อรถโดนฟ้อง หรือถูกฟ้องให้คืนรถ: คู่มือปฏิบัติฉบับรวบรัด
เข้าใจสถานการณ์ก่อนแก้ไขปัญหา
การถูกฟ้องร้องเกี่ยวกับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องให้คืนรถ หรือฟ้องเรียกค่าเสียหายอื่นๆ เป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับเจ้าของรถเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ถูกฟ้องร้องก่อน เช่น
การผิดนัดชำระหนี้: หากคุณผ่อนชำระค่างวดรถไม่ตรงตามสัญญา ธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์มีสิทธิ์ยึดรถคืนและฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
การซื้อขายรถยนต์: อาจเกิดปัญหาจากการซื้อขายรถยนต์มือสอง เช่น รถมีปัญหาซ่อนเร้น หรือเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ไม่ถูกต้อง
อุบัติเหตุ: หากคุณเป็นผู้ก่อให้เกิดอุบัติเหตุและมีการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย
ขั้นตอนการรับมือเมื่อถูกฟ้องร้อง
รับทราบหมายศาล: เมื่อได้รับหมายศาล ให้ศึกษาเนื้อหาอย่างละเอียดว่าถูกฟ้องในข้อหาใดบ้าง และมีระยะเวลาในการยื่นคำให้การเท่าใด
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย เช่น ทนายความ เพื่อขอคำแนะนำและวางแผนการต่อสู้คดี
เตรียมเอกสารหลักฐาน: รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สัญญาซื้อขายรถยนต์ ใบเสร็จรับเงิน เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาคดี
ยื่นคำให้การ: ภายในระยะเวลาที่กำหนดในหมายศาล ต้องยื่นคำให้การต่อศาล เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดี: ศาลจะนัดให้ทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ย หรือพิจารณาพยานหลักฐาน เพื่อตัดสินคดี
แนวทางป้องกันปัญหา
ชำระหนี้ตรงตามกำหนด: หากมีการผ่อนชำระรถยนต์ ควรชำระค่างวดตรงตามกำหนด เพื่อป้องกันปัญหาการถูกยึดรถ
ตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด: ก่อนซื้อรถยนต์มือสอง ควรตรวจสอบสภาพรถให้ละเอียด และขอให้ผู้ขายแสดงเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ที่ถูกต้อง
ทำประกันภัยรถยนต์: การทำประกันภัยรถยนต์จะช่วยคุ้มครองความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ
คำแนะนำเพิ่มเติม
อย่าเพิกเฉย: การเพิกเฉยหมายศาลอาจทำให้เสียสิทธิ์ในการต่อสู้คดี
รักษาเอกสารให้ครบถ้วน: การมีเอกสารหลักฐานที่ครบถ้วนจะช่วยให้คุณมีอำนาจในการต่อสู้คดีมากขึ้น
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ: การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณเข้าใจกระบวนการทางกฎหมายและวางแผนการต่อสู้คดีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หมายเหตุ: ข้อมูลนี้เป็นเพียงข้อมูลทั่วไป ไม่สามารถนำไปใช้เป็นคำแนะนำทางกฎหมายได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับกรณีของคุณ
คำสำคัญ: ถูกฟ้องร้อง, รถยนต์, ยึดรถ, คืนรถ, หมายศาล, กฎหมาย, ทนายความ
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหัวข้อใดเป็นพิเศษ สามารถสอบถามได้เลยนะคะ
ตัวอย่างคำถามที่คุณอาจสนใจ:
ถ้าผมไม่สามารถชำระหนี้รถได้เลย จะมีทางออกอื่นนอกจากการให้ยึดรถไหมครับ?
ถ้าผมซื้อรถมือสองมาแล้วเกิดปัญหาเครื่องยนต์เสีย จะทำอย่างไรได้บ้าง?
ถ้าผมถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุ แต่ผมคิดว่าผมไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จะต้องทำอย่างไร?
link: ดูขอข้อมูลเพิ่ม เกี่ยวกับการโดนฟ้องยึดรถ
แหล่งที่มา :Gemini & anantagood
link: สนใจแก้ปัญหา เรื่องโดนฟ้องศาลเรื่องรถ ทุกกรณ๊ 

ข้อมูลเพิ่มเติม :
กรณีถูกยึดก่อน วันที่มีหมายนัดขึ้นศาล 
รถถูกไฟแนนซ์ยึด ทำอย่างไรดี ถูกยึดรถเนื่องจากค้างค่างวด 3 งวด ยังไม่มีเงินชำระ เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายติดตามลงพื้นที่ เจอรถที่บ้านจอดไว้ เจ้าหน้าที่ก็แสดงเอกสารใบขอคืนรถ และแจ้งว่าได้รับแต่งตั้งจากธนาคารเพื่อมารับรถไปเก็บไว้ก่อน (พักรถ = ยึดรถ) และถ้าพร้อม ให้นำเงินมาชำระยอดที่ค้าง 3 งวด แล้วมาเอารถกลับไปใช้


Link : ปัจจุบันกฏหมายการทวงหนี้ มีคุ้มครอง อ้างอิง : ธนาคารแห่งประเทศไทย:

ทำให้ฝ่ายติดตามได้เปลี่ยนรูปแบบการเจรจา ให้เกิดความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และยินยอมคืนรถโดยดี แต่ตามรูปแบบกฏหมาย การยึดรถ ต้องมีคำสั่งจากศาลพิพากษา แต่งตั้งให้ ทนาย หรือผู้รับมอบอกนาจ โดยรถบุชื่อชัดเจน แสดงตัวตน มาขอคืนรถจากผู้เช่าซื้อ เท่านั้น เมื่อ โดนยึดรถ ทิสโก้ยึดรถไปแล้ว ผู้เช่าซื้อก็เริ่มศึกษาและหาทางแก้ไขว่าหลังจากโดนยึด ผู้เช่าซื้อ พยายามค้นหา หรือปรึกษาเพื่อหาทางที่จะนำรถกลับมาใช้ ช่วยได้จริง ไม่ตกหลุมพลางของกลุ่มนายทุนที่ไปช่วย แต่ท้ายสุดอยากได้รถลูกค้า หรือเปลี่ยนรูปแบบช่วยไถ่รถคืน แต่กลายเป็น เอารถไปจำนำจอด ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์ของผู้เช่าซื้อ และส่งผลให้ผู้เช่าซื้อ ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ เข้าสู่การค้นหาจากแหล่งข้อมูล Google ค้นหา ไถ่ถอนรถถูกยึด จึงมาเจอทีมงานอนันตา และให้คำปรึกษา สรุปรายละเอียด ลูกค้ายอมรับเงื่อนไข อนันตากรุ๊ปมั่นใจ นำพาลูกค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ ก็ยินดี ช่วยเหลือนัดไถ่ถอนรถยึด เพื่อส่งคืนรถให้กับผู้เช่าซื้อ = ลูกค้า ได้มีรถกลับไปใช้ ได้ปิดบัญชีที่ทิสโก้ ที่เป็นหนี้เสีย (ซึ่งประวัติจะโดนลบในเครดิตบูโรประมาณ 2ปี ) ได้เริ่มต้นผ่อนใหม่ และขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ เพื่อเป็นการปรับสภาพ หลังเกิดสภาวะเศรษฐกิจ ที่แย่ในตอนนี้ การไถ่ถอนรถยึด เริ่มจากแนะนำให้ลูกค้าเตรียมเอกสารให้ครบ สำเนาบัตรประชาชน และเอกสารใบคืนรถ (สีชมพู) และสัญญาเช่าซื้อ (ถ้ามี) เตรียมไปเพื่อตรวจสอบ เอกสาร และชำระเงินเต็มจำนวน เพื่อขอรับใบปล่อยรถคืน ซึ่งทางธนาคารจะให้เดินเรื่องกับทีมฝ่ายกฏหมายอยู่ชั้น 7 ที่อาคารภคินท์ เมื่อได้รับแล้ว ทางฝ่ายกฏหมายจะส่งแผนที่ที่จอดรถ (ยึดแล้ว) ว่าไปอยู่ที่ลานประมูลที่ไหน ทางลูกค้าและทีมงาน ก็เข้าไปรับรถคืน คันนี้รถยึดและพักไว้ที่ สหการประมูล (แถวเม่งจ๋าย) ซึ่งมีกำหนดไถ่คืนก่อนออกประมูล 15 วัน ลูกค้าโดนยึดได้ 5 วัน และได้ติดต่อมาหาเราเพื่อช่วยดำเนินการ ดังนั้น เมื่อถูกยึดรถ หรือ เอารถไปพักไว้ก่อน จะมีกำหนดไถ่ถอนกำหนดไว้ไม่เหมือนกันแล้วแต่นโยบายของไฟแนนซ์นั้น ๆ ซึ่งเคสนี้ มีกำหนด 15 วัน ทำให้ต้องเร่งดำเนินการนำรถกลับมาให้ทันในระยะเวลาที่กำหนด

Link: รับไถ่ถอนรถยึด รับไถ่ถอนรถโดนฟ้องศาล รับไถ่ถอนรถจำนำจอด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้