4 ปัจจัย ชี้ชัด รีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด ได้หรือไม่?

4 ปัจจัย ชี้ชัด รีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด ได้หรือไม่?
ผ่อนรถมา 2 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? คำถามยอดฮิตสำหรับผู้มีรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด หลายคนสงสัยว่า
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะรีไฟแนนซ์เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจ
พร้อมเผย 4 ปัจจัยสำคัญที่บ่งบอกโอกาสไฟเขียวในการรีไฟแนนซ์ ในกรณีดาวน์ไม่เกิน20%
1. ระยะเวลาการผ่อน: กรณีดาวน์ไม่เกิน20%
โดยทั่วไป สถาบันการเงินจะพิจารณาจาก ระยะเวลาการผ่อนที่ผ่านมา
ลูกค้าต้องผ่อน เกิน 50% ของระยะเวลาสัญญา
ตัวอย่าง:
สัญญา 4 ปี ผ่อนมาแล้ว 2 ปี (เกิน 50%)
สัญญา 6 ปี ผ่อนมาแล้ว 3 ปี (เกิน 50%)
2. ยอดเงินที่ผ่อนชำระ: กรณีดาวน์ไม่เกิน20%
บางสถาบันพิจารณาจาก ยอดเงินที่ผ่อนชำระไปแล้ว
ต้องมากกว่า 50% ของยอดหนี้ทั้งหมด
3. ราคาประเมินรถยนต์:
ราคาประเมินรถยนต์ ณ ปัจจุบัน
ต้องมากกว่ายอดหนี้คงเหลือ

4. เงื่อนไขตัวผู้กู้:

คุณสมบัติผู้กู้ อาชีพ รายได้
ส่งผลต่อยอดจัดรีไฟแนนซ์
ตัวอย่าง:
สถาบันการเงินให้ราคากลางรถ 100 บาท
ผู้กู้มีประวัติและเครดิตดี
อาจได้ราคากลางเพิ่มเป็น 150 บาท

หมายเหตุ:

ข้อมูลนี้เป็นเพียงแนวทางเบื้องต้น
เงื่อนไขจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละสถาบันการเงิน
แนะนำให้ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบข้อเสนอ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ

คำถามที่พบบ่อย:

ผ่อนรถยังไม่หมดย้ายไฟแนนซ์ได้ไหม? - ได้ แต่ต้องผ่านเงื่อนไขตามข้อ 1-4 ข้างต้น
รถยังผ่อนอยูรีไฟแนนซ์ได้ไหม? - ได้ แต่ต้องผ่านเงื่อนไขตามข้อ 1-4 ข้างต้น
ผ่อนรถกี่งวดถึงจะรีไฟแนนซ์ได้? - ไม่มีเกณฑ์ตายตัว ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสถาบันการเงิน
รีไฟแนนซ์รถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง? - เอกสารทั่วไป เช่น สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน เอกสารรถยนต์ ฯลฯ

สรุป:

การรีไฟแนนซ์รถยังผ่อนไม่หมด เป็นโอกาสที่ดีในการประหยัดค่าใช้จ่าย
แต่ต้องศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบข้อเสนอ และเตรียมความพร้อมให้ครบถ้วน
เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติและรีไฟแนนซ์ได้อย่างคุ้มค่า

หมายเหตุเพิ่มเติม: ทำไมต้องผ่อนเกิน 50% ของยอดหนี้ก่อนรีไฟแนนซ์?
หลายคนสงสัยว่าทำไมสถาบันการเงินถึงกำหนดให้ผ่อนรถยนต์เกิน 50% ของยอดหนี้ก่อนขอรีไฟแนนซ์

เหตุผลหลักมาจาก

1. ระยะเวลาการผ่อนและดอกเบี้ย:

โดยทั่วไป สัญญาการผ่อนรถยนต์จะมีระยะเวลาผ่อนที่ยาวนาน
คิดดอกเบี้ยเป็นรายปี
ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายก็ยิ่งสูง
2. ยอดเงินต้นและดอกเบี้ย:

ในช่วงแรกของการผ่อนรถยนต์ ส่วนใหญ่จะเป็นการจ่ายดอกเบี้ย
เงินต้นที่ชำระจริงมีจำนวนน้อย
หากผ่อนน้อยกว่า 50%
ยอดหนี้คงเหลือ จะยังสูงอยู่มาก
โอกาสที่ราคาประเมินรถยนต์ ณ ปัจจุบัน จะน้อยกว่ายอดหนี้คงเหลือ
เป็นความเสี่ยง สำหรับสถาบันการเงิน
ตัวอย่าง:

กู้ซื้อรถ 100 บาท คิดดอกเบี้ย 5% ต่อปี ผ่อน 6 ปี 84 งวด
ส่งงวดละ 1.5บาท
หากผ่อนครบ 3 ปี 36 งวด (50%)
ยอดเงินต้นที่ชำระ จะอยู่ที่ 25.70 บาท
ยอดหนี้คงเหลือ จะอยู่ที่ 74 บาท
ราคาประเมินรถยนต์ ณ ปัจจุบัน อาจจะน้อยกว่า 74 บาท
ทำให้รีไฟแนนซ์ไม่ได้
ดังนั้น การกำหนดให้ผ่อนเกิน 50% ของยอดหนี้

เพื่อให้มั่นใจว่า ยอดหนี้คงเหลือน้อยลง
ราคาประเมินรถยนต์ ณ ปัจจุบัน มีโอกาสมากกว่า ยอดหนี้คงเหลือ
ลดความเสี่ยง ของสถาบันการเงิน
อย่างไรก็ตาม

เงื่อนไขการรีไฟแนนซ์** อาจแตกต่างกันไป** ในแต่ละสถาบันการเงิน
แนะนำให้ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบข้อเสนอ และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจ
หวังว่าข้อมูลนี้

จะช่วยให้เข้าใจ เหตุผลที่ต้องผ่อนเกิน 50% ของยอดหนี้ก่อนรีไฟแนนซ์
และตัดสินใจ เลือกวิธีการรีไฟแนนซ์ที่เหมาะสมกับตัวเอง

อาจสอบถามเพิ่มเติม เปรียบเทียบราคากลาง โดยเอาปัจจัยทั้ง4ด้านมาเช็คยอดราคานำรถเข้าไฟแนนซ์กับ www.anantagood.com 
หรือ
Link: ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม รีไฟแนนซ์รถยนต์ เช็คยอดราคารถ

รีไฟแนนซ์รถยนต์มือสอง : เลือกแบบไหนดีเพมาะกับเรา?